วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สายพันธุ์ของแมวเปอร์เซีย







 1.Solid colour  ขนจะเป็นสีเดียวตลอดตัว ไม่ควรมีสีอื่นแซมเลย สีจะต้องเสมอกันตลอด เช่น white ขนสีขาวบริสุทธิ์, blue ขนสีเทาเข้ม, black สีขนดำสนิท, red ขนสีแดงเข้มและสดใส, cream ขนสีครีมเข้ม, chocolate ขนสีน้ำตาสช็อกโกแลต, lilac ขนสีลาเวนเดอร์




  2.Sliver&Golden ตาจะเป็นสีเขียวหรือสีเขียวอมน้ำเงินเท่านั้น





  3.Shade&Smoke จะมีสีขน 3 แบบ คือแบบ Shell จะมีสีที่ปลายขนเพียงเล็กน้อย แบบShade จะมีส่วนที่เป็นสีมากกว่า และแบบ Smoke จะมีสีมากกว่าแบบ Shade


  4.Tabby จะมีลวดลายที่เป็นที่ยอมรับอยู่ 2 แบบ คือ Classic และ Mackerel







                   
 5.Parti-colour จะเกิดขึ้นเฉพาะเพศเมียเท่านั้น อันสืบเนื่องมาจากการสืบทอดทางโครโมโซม






 6.Calico & Bi-Color สีทั่วไปตาจะเป็นสีทองแดง ถ้าเป็นตาสองสีตาข้างหนึ่งจะเป็นสีฟ้า อีกข้างเป็นสีทองแดง ความเข้มของสีตาทั้งสองข้างเท่าๆ กัน




 7.Himalayan เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวไทยวิเชียรมาสกับแมวเปอร์เซีย จะมีลักษณะแต้มสีตำแหน่งเดียวกับแมววิเชียรมาส คือหูทั้งสองข้าง ที่หน้าครอบเหมือนหน้ากาก ขาทั้งสี่ ตาสีฟ้าสดใส


ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http:puttinee5304453.blogspot.com


สายพันธุ์ของแมวไทยทั้งหมด17สายพันธุ์


1. แมวมาเลศ --- เรียกอีกชื่อว่าแมวดอกเลา สำตัวมีสีขี้เถ้า หรือ สีสวาด บางตัวอาจมีขาวแซมกลายเป็นสีดอกเลา มีดวงตาสีเหลืองอำพัน เลี้ยงไว้จะมีความสุข เป็นที่รักใคร่


2. แมวศุภลักษณ์ --- เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า แมวทองแดง มีสีทองแดงหรือสีน้ำตาลแดงเข้มทั่วตัว ดวงตาสีเหลืองใสเป็นประกายผู้ใดเลี้ยงไว้มีแต่จะเพิ่มยศยิ่งขึ้นไป


3. แมววิเชียรมาศ --- สีพื้นเป็นสีขาวหม่น และมีแต้มสีน้ำตาลเข้ม ที่หน้า หาง เท้าทั้ง 4 หูทั้ง 2 และอวัยวะเพศ รวมเป็นเก้าแห่ง ดวงตาสีฟ้าสด เลี้ยงไว้จะนำโชคลาภมาให้


4. แมวแซมเศวต --- มีขนสีดำแซมสีขาว เล็กน้อย ขนบางสั้นร่างเพรียว ดวงตาสีเขียว มีคุณด้านใดมิได้บอกไว้


5. แมวนิลรัตน์ --- สีดำสนิททั้งตัวไม่ว่าจะเป็นขน ตา เล็บ สิ้นฟัน หางเรียว เลี้ยวไว้จะได้ทรัพย์สินเงินทอง


6. แมวสิงหเสพย์ --- มีขนสีดำ แต่มีด่างชาวที่จมูก รอบปากละรอบคอ ดวงตาสีเหลืองทองเลี้ยงไว้จะได้ทรัพย์สินเงินทอง และจะมีสุข


7. แมววิลาศ --- สีพื้นสีดำ มีแต้มสีขาวที่หูทั้งสอง เท้าทั้งสี่ แต้มเป็นเส้นตรง 2 แห่งคือ ตั้งแต่คอถึงปลายหาง และตั้งแต่ปากล่างถึงท้อง เลี้ยงไว้จะได้ยศถาบรรดาศักดิ์และทรัพย์สิน


8. แมวรัตนกำพล --- มีสีขาวนวล มีแต้มสีดำเป็นวงแหวนพาดรัดรอบลำตัว ตาสีทอง เลี้ยงไว้จะได้อำนาจ ยศถาบรรดาศักดิ์


9. แมวกรอบแว่นหรือแมวอานม้า --- สีพื้นสีขาว แต่มีแต้มสีดำ กลางหลัง ดูแล้วคล้ายอานม้า และแต้มดำบริเวณรอลดวงตาเหมือนใส่แว่นเลี้ยงไว้จะมีชื่อเสียง แต่หาได้ยาก


10. แมวมุลิลา --- สีพื้นสีดำ แต้มขาวที่หูทั้ง 2 ข้าง ดวงตาสีเหลืองพระสงฆ์ควรเลี้ยง จะทำให้ศึกษาเรียนรู้ธรรมได้ดียิ่งขึ้น

11. แมวเก้าแต้ม --- สีพื้นสีขาวแต้มด้วยสีดำนับรวมทั้งหมด 9 แต้ม เลี้ยงไว้ค้าขายดี เจริญรุ่งเรือง


12. แมวนิลจักร --- สีพื้นเป็นสีดำ มีแต้มสีขาวรอบคอ เหมือนใส่สร้อยเลี้ยงไว้จะได้เงินทองทรัพย์สิน


13. แมวกระจอก --- ลำตัวอ้วนกลม สีพื้นสีดำ มีแต้มขาวเฉพาะบริเวณปาก ดวงตาสีเหลืองทองเลี้ยงไว้จะได้ทั้งเงินทองและยศถาบรรดาศักดิ์


14. แมวปัดเศวตหรือปัดตลอด --- สีพื้นสีดำ มีแต้มขาวยาวตั้งแต่ปลายจมูกผ่านหลังไปถึงปลายหาง ดวงตาสีบุษราคัม เลี้ยงไว้จะมีชื่อเสียงเกิดแก่วงศ์ตระกูล


15. แมวการเวก --- มีสีพื้นเป็นสีดำ มีแต้มขางเฉพาะตรงสันจมูกเท่านั้น ดวงตาสีอำพัน เลี้ยงไว้จะมีโชคลาภและยศ

16. แมวจตุบท --- สีพื้นสีดำ มีแต้มขาวที่ขา และเท้าทั้งสี่ และแต้มยาวตั้งแต่หน้าอกถึงท้อง ดวงตาสีเหลืองเชื้อพระวงศ์ฝ่ายราชินีเท่านั้นจึงควรเลี้ยง

           

17. แมวโกญจา --- สีดำสนิททั้งตัว (เฉพาะขน) ขนละเอียด หน้ายาว หางยาวเรียว เท้าเหมือน
             สิงโต เวลาเดินท่าทางเหมือนสิงโตดวงตาสีทองอ่อน ๆ เลี้ยงไว้จะมีอำนาจ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.bloggang.com/mainblog.php

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประวัติความเป็นมาของแมวไทย

                                        


แมวไทยเก้าแต้ม

แมวไทยโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา 17 สายพันธุ์ประวัติของแมวไทยหาได้ตามตำราโบราณได จารึกด้วยลายลักษณ์อักษรในสมุดข่อยได้อ่านดูจะพบว่ามีคำว่าแมว จารึกอยู่ในนั้นด้วยในสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ว่ามีแมวไทยโบราณอยู่ในสมัยนั้นมี 17 สายพันธุ์ และแมวไทยในสมัยนั้นได้หายไปพักหนึ่งจนมาในช่วงหลังรัตนโกสินทร์ในสมัย รัชกาลที่ 5 ได้เริ่มเลี้ยงแมวไทยขึ้นมาอีก แต่คราวนี้แมวที่เลี้ยงจะมีอยู่แต่ในวัง โดยมากจะเป็น แมววิเชียรมาศ ชาวบ้านธรรมดาในสมัยนั้นจะไม่มีสิทธิได้เลี้ยงแมวเลยและก็ไม่มีการซื้อขายแมวด้วย แต่จะให้เป็นของสำคัญเป็นที่ระลึก



 


สมัยรัชกาลที่ 5 นี้เอง ได้พระราชทานแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาสเป็นของขวัญให้แก่กงศุลชาวอังกฤษ 1 คู่ตัวผู้กับตัวเมีย และกงศาลชาว อังกฤษคนนั้นได้นำเอาแมววิเชียรมาศกลับบ้านเกิดที่ประเทศอังกฤษ และได้เอาแมวไทยคู่นั้นลงประกวดแมวทั่วโลกที่คริสตัลพาเลซ ที่ประเทศอังกฤษ ปี 2428ผลปรากฎออกมาว่า แมววิเชียรมาสหรือเก้าแต้มเป็นแมวของประเทศไทยเราชนะได้รางวัลที่ 1 ประเภทแมวขนสั้นและในงานครั้งนี้เองทำให้แมวไทยมีชื่อเสียงก้องโลกในฐานะเช่นแมวพันธุ์ดีสวยที่สุดในโลกและชาวต่างชาติยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าแมวไทยเป็นแมวขนสั้นที่สวยที่สุดในโลกหรือสมญานามที่ว่า แมวไทยระบือไกลทั่วโลกอีกอย่างหนึ่งทำให้ชาวต่างชาติรู้จักประเทศไทย มากขึ้น ถ้าพูดถึงแมววิเชียรมาสของไทยเราตามมาด้วยแมวอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็ให้เป็นแมวขาวมณี แต่ตามตำราที่จารึกประวัติของแมวไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาทั้ง 17สายพันธุ์ แมวขาวมณีจะไม่ได้ถูกจารึกเอาไว้ คือจะอยู่นอกตำรา 



แมววิเชียรมาส    
                                                                                                                                  
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนปลายแมวไทยสมัยโบราณทั้ง17สายพันธุ์ได้เริ่มหายสาบสูญแมวที่เคยเลี้ยงอยู่ในวังก็เริ่มลดน้อยลงแต่จะเลี้ยง แมวกระจัดกระจายกันไปทั่วตามที่ต่างๆส่วนใหญ่จะเลี้ยงอยู่ในวัดวาอารามเพื่อป้องกันโจรขโมยตามบ้านเรือนทำให้แมวไทยพันธุ์แม้ผสมพันธุ์กันโดยธรรมชาติข้ามสายพันธุ์ทำให้เกิดแมวไทยเป็นลูกผสมออกมามากมายจากแมวสายพันธุ์แท้เดิมสายมี17พันธุ์ ก็เริ่มหายสาบสูญไปจนเกือบหมด และได้แมวไทยลูกผสม ออกมาแทนจึงทำให้ในขณะนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ยังเหลือแมวไทยพันธุ์แท้อยู่เพียง6สายพันธุ์










    





               



แมวขาวมณี


  
                  




                  



       




วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แบบเสนอหัวข้อการสร้าง Blog รายวิชา ง31101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ผู้เสนอ น.ส.นริศรา   กิจสอาด ชั้น  ม. 4/8 เลขที่ 18
ชื่อ blog ภาษาไทย  วันของคนรักแมว     ชื่อ blog ภาษาอังกฤษ  Moggyday
ที่อยู่ blog  moggyday.blogspot.com
ครูที่ปรึกษา 1.ครูศิวาวุธ  ภาณุพิจารย์  
ที่มาและความสำคัญ
เนื่องในปัจจุบันนี้มีผู้ที่ชอบเลี้ยงแมวทั้งแมวไทยแมวเปอร์เซียและแมวสายพันธุ์อื่นๆเผยแพร่
กันเป็นอย่าง มากทั้งเลี้ยงเป็นสัตว์ประกอบธุรกิจและเลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินทางคณะผู้จัดทำ
จึงคิดที่จะทำblogวันของคนรักแมวขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแมวและเพื่อคนที่รักแมวจะ
ได้รู้ว่าสายพันธุ์ของแมวไทยแมวเปอร์เซียและแมวสายพันธุ์อื่นๆนั้นมีสายพันธุ์ใดบ้างและได้รู้
วิธีการดูแลเลี้ยงดูแมวอย่างถูกวิธีแก่ผู้ที่สนใจจะได้นำไปศึกษาและปฏิบัติสืบต่อไป                                                                                         วัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน
1. เพื่อblog วันของคนรักแมวขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวแมวไทยแมวเปอร์เซีและ
แมวสายพันธุ์อื่นๆ
2. เพื่อศึกษาการสร้าง blog และเว็บไซต์
3. เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าชม blog วันของคนรักแมว

ซอฟแวร์ที่ใช้ในการพัฒนา
1.www.bloger.com
2.adobe Photoshop
3.PhotoScape
ขอบเขต
เนื้อหาภายใน Blog จะประกอบไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับแมวไทยแมวเปอร์เซีย
และแมวสายพันธุ์อื่นๆโดยมีหัวข้อหลักดังนี้        
1. ประวัติความเป็นมาของแมวไทย
2. ประวัติความเป็นมาของแมวเปอร์เซีย
3. สายพันธุ์ของแมวไทย
4. สายพันธุ์ของแมวเปอร์เซีย
5. สายพันธุ์ของแมวที่นิยมเลี้ยงกันทั่วไป
6.รายชื่อสายพันธุ์แมวชนิดอื่นๆ
7. วิธีการเลี้ยงแมวไทย
8. วิธีการเลี้ยงเปอร์เซีย
9.ระบบประสาทสัมผัสและประโยชน์ของแมว
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. เป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแมวไทยแมวเปอร์เซียและแมวสายพันธุ์อื่นๆ

2.ได้รับความรู้ในการสร้างเว็บ

วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประวัติความเป็นมาของแมวเปอร์เซีย








แมวเปอร์เซีย ถือเป็นราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลางที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
เพราะ แมวเปอร์เซีย เป็นแมวขนยาว หน้าตาน่าเอ็นดู หัวกลมสวย ตากลมโต มีหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รวมถึงหน้าตาก็มีหลายแบบ มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนง่าย ร่าเริงซุกซน ชอบประจบประแจง และมีไหวพริบ ซึ่งแมวพันธุ์นี้นับเป็นแมวต่างประเทศที่ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยเป็นพันธุ์แรกด้วย

แมวเปอร์เซีย มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน โดยในปี ค.ศ. 1684 ได้มีการบันทึกลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับที่มาของ แมวเปอร์เซีย หรือแมวเปอร์เซียน (Persian Cats) ว่า พ่อค้าทะเลทราย (หรือที่เรียกว่ากองคาราวาน) ทางแถบๆ ตะวันตกของตุรกีและอิหร่าน มักบรรทุกสินค้ามากมาย อาทิเครื่องเทศ อัญมณี และสินค้ามีค่าอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งก็มีแมวขนยาวติดมาด้วย แมวขนยาวนั้นถูกซื้อโดยกะลาสีและได้นำแมวติดไปกับเรือสินค้าเดินทางเข้าทวีปยุโรป ซึ่งหลายปีต่อมาแมวพันธุ์นั้นถูกรู้จักในชื่อ เตอร์กิส แองโกร่า (Turkish Angora)
ต่อมาในปลายศตวรรษที่ 19 ชาวอังกฤษเริ่มผสมพันธุ์แมวเตอร์กิส แองโกร่า กับแมวสายพันธุ์อื่น และพัฒนาจนได้แมวที่มีขนหนาและยาวกว่าเดิม กระทั่งในที่สุดแมวพันธุ์นี้ก็ได้รับการยอมรับและจดทะเบียนขึ้นที่ประเทศอังกฤษในชื่อว่า Longhair ซึ่งชื่อของมันก็ถูกตั้งขึ้นตามประเทศต้นกำเนิดนั่นเอง นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว แมวเปอร์เซียยังถูกนำไปเลี้ยงในประเทศต่างๆ ทั้งยุโรปและอเมริกามานานหลายร้อยปี ซึ่งอเมริกาจะเรียกแมวพันธุ์นี้ว่า Persian




แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก กล่าวคือ สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตาสำหรับแมวเปอร์เซียที่มีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ ควรจะมีจมูกอยู่ในระดับเดียวกับตา โครงสร้างลำตัวสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็กมีปลายหูที่กลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นและตรง ไม่มีรอยหัก ขนยาวฟู มีท่วงท่าการเดินดูสง่างาม ทั้งนี้ แมวเปอร์เซียในสมัยแรก ๆ มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างจากแมวเปอร์เซียในปัจจุบันมากทีเดียว ปัจจุบันมันถูกพัฒนาให้มีรูปร่างที่สั้นขึ้น ขนยาวขึ้น ถูกเปลี่ยนแปลงโครงร่างให้ใหญ่และกลม จมูกสั้นและหักมากขึ้น



อย่างไรก็ตาม แมวเปอร์เซียถูกแบ่งออกเป็น 7 ชนิด โดยแบ่งตามสี และลักษณะเป็นหลัก ดังนี้


1.Solid colour ขนจะเป็นสีเดียวตลอดตัว ไม่ควรมีสีอื่นแซมเลย สีจะต้องเสมอกันตลอด เช่น white ขนสีขาวบริสุทธิ์ blue ขนสีเทาเข้มblackสีขนดำสนิท red ขนสีแดงเข้มและสดใสcreamขนสีครีมเข้ม chocolate ขนสีน้ำตาลช็อกโกแลตlilacขนสีลาเวนเดอร์


2.Sliver&Goldenตาจะเป็นสีเขียวหรือสีเขียวอมน้ำเงินเท่านั้น


3.Shade&Smoke จะมีสีขน3แบบ คือแบบ Shell จะมีสีที่ปลายขนเพียงเล็กน้อยแบบShadeจะมีส่วนที่เป็นสีมากกว่าและแบบSmokeจะมีสีมากกว่แบบShade


4.Tabby จะมีลวดลายที่เป็นที่ยอมรับอยู่ 2แบบคือ Classic และ Mackerel



5.Parti-colourจะเกิดขึ้นเฉพาะเพศเมียเท่านั้นอันสืบเนื่องมาจากการสืบทอดทาโครโมโซม


6.Calico & Bi-Color สีทั่วไปตาจะเป็นสีทองแดงถ้าเป็นตาสองสีตาข้างหนึ่งจะเป็นสีฟ้า อีกข้างเป็นสีทองแดง ความเข้มของสีตาทั้งสองข้างเท่าๆกัน



7.Himalayanเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวไทยวิเชียรมาสกับแมวเปอร์เซียจะมีลักษณะแต้มสีตำแหน่งเดียวกับแมววิเชียรมาสคือหูทั้งสองข้างที่หน้าครอบเหมือนหน้ากากขาทั้งสี่ ตาสีฟ้าสดใส





วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วันของคนรักแมว(์Moggyday)


จัดทำโดย



นางสาวนริศรา    กิจสอาด  

ชั้นม.4/8   เลขที่ 18

โรงเรียนสงวนหญิง  อำเภอเมืิอง  จังหวัดสุพรรณบุรี